http://www.learners.in.th/blogs/posts/386486
ได้กล่าวว่า
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด(Apperception) นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า การ
เรียนรู้เกิดจากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม(neutral - passive) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 (sensation) และความรู้สึก(feeling)
คือ การตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส
http://www.neric-club.com/data.php?page=3&menu_id=97
ได้กล่าวว่า
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด(Apperception)
นักคิดกลุ่มนี้มีความเชื่อว่า
การเรียนรู้เกิดจากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม(neutral - passive) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 (sensation) และความรู้สึก(feeling) คือ
การตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส
การจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้จึงเน้นให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ผ่าน
ทางประสาทสัมผัสทั้ง 5
และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ซึ่งจะช่วยให้ผู้
เรียนเกิดความเข้าใจได้เป็นอย่างดี
ทิศนา แขมมณี (2555;48-50)
ได้กล่าวว่า
ทฤษฎีของกลุ่มที่เน้นการรับรู้และการเชื่อมโยงความคิด
(Apperception หรือ Herbartianism)
นักคิดคนสำคัญในกลุ่มนี้คือ จอห์น ล็อค (John
Locke) วิลเฮล์ม วุนด์ (Wilhelm Wundt) ทิชเชเนอร์
(Titchener) และแฮร์บาร์ต (Herbart) ซึ่งมีความเชื่อดังนี้
ก.
ความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้
1.มนุษย์เกิดมาไม่มีทั้งความดีและความเลวในตัวเอง
การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม (neutral -
passive)
2.จอห์น ล็อค
เชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับจิตหรือสมองที่ว่างเปล่า (tabula rasa) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 การส่งเสริมให้บุคคลมีประสบการณ์มาก ๆ ในหลาย ๆ
ทางจึงเป็นการช่วยให้บุคคลเกิดการเรียนรู้
3.วุนด์ เชื่อว่าจิตมีองค์ประกอบ 2
ส่วน คือการสัมผัสทั้ง 5 (sensation) แลการรู้สึก (feeling) คือการตีความหรือแปลความหมายจากการสัมผัส
4.ทิชเชเนอร์มีความเห็นเช่นเดียวกับวุนด์ แต่ได้เพิ่มส่วนประกอบของจิตอีก 1
ส่วน ได้แก่ จินตนาการ (imagination) คือการคิดวิเคราะห์
5. แฮร์บาร์ต
เชื่อว่าการเรียนรู้มี 3 ระดับคือขั้นการเรียนรู้โดยประสาทสัมผัส (sens
activity) ขั้นจำความคิดเดิม (memory
characterized) และขั้นเกิดความคิดรวบยอดและเข้าใจ (conceptual
thinking or understanding) การเรียนรู้เกิดจากการที่บุคคลได้รับประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง
5 และสั่งสมประสบการณ์หรือความรู้เหล่านี้ไว้
การเรียนรู้นี้จะขยายขอบเขตออกไปเรื่อย ๆ
เมื่อบุคคลได้รับประสบการณ์หรือความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ใหม่กับ
ความรู้เดิมเข้าด้วยกัน ( apperception)
6.แฮร์บาร์ตเชื่อว่าการสอนควรเริ่มจากการทบทวนความรู้เดิมของผู้
เรียนเสียก่อนแล้วจึงเสนอความรู้ใหม่ ต่อไปควรจะช่วยให้ผู้เรียนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้
ใหม่ จนได้ข้อสรุปที่ต้องการแล้วจึงให้ผู้เรียนนำข้อสรุปที่ได้ไปประยุกต์ใช้กับ
ปัญหาหรือสถานการณ์ใหม่ ๆ
ข.หลักการจัดการศึกษา/การสอน
1.การจัดให้ผู้เรียนได้ประสบการณ์ผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5
เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
2.การช่วยให้ผู้เรียนสร้างสัมพันธ์ระหว่างความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้อย่างดี
3.การสอนโดยดำเนินการตาม 5 ขั้นตอนของแฮร์บาร์ต
จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีและรวดเร็ว ขั้นตอนดังกล่าวคือ
3.1
ขั้นเตรียมการหรือขั้นนำ (preparation) ได้แก่การเร้าความสนใจของผู้เรียนและการทบทวนความรู้เดิม
3.2 ขั้นเสนอ (presentation) ได้แก่
การเสนอความรู้ใหม่
3.3
ขั้นการสัมพันธ์ความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ (comparison and abstraction) ได้แก่การขยายความรู้เดิมให้กว้างออกไป
โดยสัมพันธ์ความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การเปรียบเทียบ
การผสมผสาน ฯลฯ ทำให้ได้ข้อเท็จจริงใหม่ที่สัมพันธ์กับประสบการณ์เดิม
3.4
ขั้นสรุป (generalization) ได้แก่การสรุปการเรียนรู้เป็นหลักการหรือกฎต่าง
ๆ ที่จะสามารถจะนำไปประยุกต์ใช้กับปัญหาหรือสถานการณ์อื่น ๆ ต่อไป
3.5
ขั้นประยุกต์ใช้ (application) ได้แก่การให้ผู้เรียนนำข้อสรุปหรือการเรียนรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาใน
สถานการณ์ใหม่ ๆที่ไม่เหมือนเดิม
สรุป การ เรียนรู้เกิดจากแรงกระตุ้นภายนอกหรือสิ่งแวดล้อม
ต้องรับรับรู้ได้โดยต้องเกิดจากการกระตุ้น ด้วยการรับรู้จากประสาทสัมผัสทั้ง 5
และความรู้สึกและสั่งสมประสบการณ์หรือความรู้เหล่านี้ไว้
การเรียนรู้นี้จะขยายขอบเขตออกไปเรื่อย ๆ
เมื่อบุคคลได้รับประสบการณ์หรือความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น โดยผ่านกระบวนการเชื่อมโยงและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ใหม่กับ
ความรู้เดิมเข้าด้วยกัน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจได้อย่างดี
จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับปัญหาหรือสถานการณ์อื่น ๆ ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
(เว็บ)
[ออนไลน์] : http://www.learners.in.th/blogs/posts/386486.เข้าถึงเมื่อ
9/07/12
(เว็บ)
[ออนไลน์] : http://www.neric-club.com/data.php?page=3&menu_id=97.เข้าถึงเมื่อ
9/07/12
(หนังสือ) ทิศนา
แขมมณี.(2555).ศาสตร์การสอน.สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น